ท่ามกลางความหวังและการช่วยเหลือยังมีเรื่องราวของคนอีกกลุ่มที่ต้องปกป้องผู้คนอยู่กลางเวหา Tom Hardy กลับมาร่วมงานกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน อีกครั้งในบท FARRIER นักบินของกองทัพอากาศที่ต้องปกป้องขบวนเรืออพยพจากฝูงบินของนาซี และตลอดทั้งเรื่อง ทอม ฮาร์ดี้ จะอยู่แค่ใน Cockpit ของเครื่องบินและมีบทพูดแค่ไม่กี่สิบประโยคแต่ Producer อย่าง Emma Thomas ก็การันตีว่าทั้งฝีมือการแสดงทางอารมณ์และการเคลื่อนไหวของ ทอม ฮาร์ดี้ นั้นก็สามารถทำให้บทนักบินคนนี้ไม่ธรรมดาได้ครับ
ดันเคิร์ก The Air 1 Hour
ความท้าทายที่สุดในการถ่ายทำพาร์ทนี้ก็คือการนำกล้อง iMax 70 mm ใช้ถ่ายทำทั้งในและนอกตัวเครื่องบินรบโบราณ เพื่อสนองนี้ดของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน ที่อยากให้คนดูได้สัมผัสกับความระทึกราวกับว่าอยู่บนเครื่องบินจริงๆ โดยการถ่ายทำบนฟากฟ้าจริงๆ นั้นต้องใช้เวลาเตรียมการนานกว่าปกติ เพราะเมื่อเครื่องบินเทคออฟไปแล้ว การเริ่มใหม่ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยครับ ทำให้ผู้กำกับภาพของเรื่องนี้ถึงกับออกปากว่าฉากสงครามที่ไร้ Green Screen ในดันเคิร์กจะทำให้คุณลุ้นจนลืมหายใจแน่นอน
เมื่องานภาพยิ่งใหญ่ขนาดนี้ แน่นอนว่าดนตรีประกอบก็ต้องไม่น้อยหน้าครับ ดันเคิร์กยังคงเป็นผลงานของคริสโตเฟอร์ โนแลนอีกเรื่องที่ได้ตัวฮานซิมเมอร์ Composer Music ระดับ Top ของวงการมาร่วมงานต่อจาก The Last Knight มาสร้างสรรค์ดนตรีประกอบสุดระทึกร่วมกับ Sound Editor อย่าง Richard King ที่นำเสียงของเรือ moonstone และเสียงของเข็มนาฬิกาของคริสโตเฟอร์ โนแลน มาป็นงานดนตรีส่วนบีบหัวใจ แต่ถึงแม้ดันเคิร์กจะอัดแน่นด้วย 3 เหตุการณ์ใหญ่ และทัพนักแสดงมากฝีมืออีกมากมาย แต่ผู้กำกับคริสโตเฟอร์ โนแลนก็เผยว่าหัวใจหลักของหนังเรื่องนี้คือการเล่าเรื่องภาพรวมมากกว่าการเจาะไปที่ตัวละครใดตัวละครหนึ่ง เพราะในคราวนี้เขาไม่อยากเล่าเรื่องผ่านบทสนทนา หรือที่มาที่ไปของตัวละคร คำถามเดียวที่เขาสนใจคือ พวกเขาเหล่านั้นจะเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์ที่มันบีบบังคับได้อย่างไรมากกว่า
ด้วยไอเดียนี้ด้วยส่งผลให้หนังเรื่องดันเคิร์กมีความยาวเพียงหนึ่งชั่วโมง 47 นาทีซึ่ งถือว่าเป็นผลงานของคริสโตเฟอร์ โนแลน ที่สั้นที่สุดนับจากผลงานเรื่องแรกของเขาอย่าง following สาเหตุที่หนังสั้นลงมาเยอะขนาดนี้เลย ก็เพราะว่าดันเคิร์กมีบทพูดไม่มาก แต่สิ่งที่มากขึ้นมาแทนเลยก็คือการใช้ภาษาภาพเล่าเรื่อง อย่างหนังขาวดำ classic อย่าง sunrise ที่ถูกยกให้เป็นผลงานมาสเตอร์พีซของวงการ รสสัมผัสประสบการณ์ความยิ่งใหญ่จากฝีมือสุดยอดผู้กำกับแห่งยุคที่จะพาคุณลืมหายใจกับเหตุการณ์ชวนระทึกที่เปลี่ยนโลกของเราไปตลอดกาลในดันเคิร์ก